สานต่อความฝันยามเกษียณยอดฮิต ทำไร่ทำสวนเล็กๆที่ต่างจังหวัด เลือกที่ดินอย่างไรให้คุ้มค่า?

1. อยู่ใกล้แหล่งน้ำ
เพราะน้ำคือสิ่งสำคัญที่สุดในการทำเกษตร เรียกได้ว่าเป็นหัวใจเลยก็ได้ค่ะ หากอยู่ใกล้แหล่งน้ำก็จะสะดวกและประหยัดมากขึ้น
แต่อย่างไรก็ตาม การขุดบ่อเก็บน้ำไว้ใช้เองก็เป็นอีกวิธีที่ดีค่ะ เผื่อว่าน้ำในแหล่งน้ำตามธรรมชาติแห้งขึ้นมา เราก็ยังมีน้ำในบ่อของเราไว้ใช้ เพราะถ้าไม่มีน้ำ ต้นไม้พืชผักที่เราปลูกไว้ ก็อาจจะแห้งตายและสร้างความเสียหายได้ค่ะ

2. พื้นที่มีขนาดพอเหมาะพอดี
ข้อนี้ต้องแล้วแต่วิจารณญาณของแต่ละท่านเลยค่ะ แต่มีข้อแนะนำว่า ให้พิจารณาจากการรูปแบบการเกษตรที่เราจะทำพันธุ์พืชที่จะปลูก ต้นเล็กหรือต้นใหญ่
กำลังของเราและแรงงานที่เราจะจ้างมาดูแลสวนของเราให้มีความสอดคล้องกัน เพื่อที่จะได้ไม่ขาดทุนหรือเหนื่อยจนเกินกำลังของเราไป
อย่าลืมว่าในยามเกษียณ ตอนนั้นเราก็อายุมากแล้ว หากทำงานหนักเกินไป ก็อาจจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพของเราได้

3. เอกสารสิทธิ์ที่ดิน ควรเป็นโฉนด (น.ส.4ก.) หรือ น.ส.3ก. เท่านั้น
เพื่อลดความเสี่ยงในเรื่องของการมีปัญหา การครอบครองกรรมสิทธิ์ภายหลังค่ะ
เพราะถ้าเราซื้อที่ดินมา แม้ว่าจะได้มาในราคาถูกก็จริง แต่ปรากฎว่า เอาไปขายไม่ได้ หรือซื้อมาแล้วถูกยึดคืน เงินที่เราลงทุนไปอาจจะสูญไปเลยก็ได้ค่ะ

4. ที่ดินอยู่บนพื้นที่สูง น้ำไม่ท่วมขัง ไม่เป็นจุดรับน้ำ
แม้ว่าน้ำจะเป็นสิ่งสำคัญในการทำเกษตรก็จริง แต่หากมีน้ำเยอะเกินไป จากการที่พื้นที่ของเราเป็นจุดรับน้ำ เมื่อมีภัยธรรมชาติ เช่นน้ำป่า น้ำท่วมที่ ดินของเราเกิดน้ำท่วมขัง พืชผลทางการเกษตรเสียหาย ก็อาจจะทำให้เกิดโทษแทนที่จะเป็นประโยชน์ก็ได้ค่ะ

5. สำรวจที่ดิน และคุณภาพของดิน
เราควรจะสำรวจพื้นที่ใกล้เคียงว่ามีการปลูกพืชชนิดใดบ้าง มีการเติบโต เจริญงอกงามดีหรือไม่ เพื่อที่จะดูว่า ที่ดินที่เราดูไว้ เหมาะที่จะทำการเกษตรในแบบที่เราต้องการมั้ย
หรือเหมาะกับปลูกพืชชนิดใด เพราะบางพื้นที่ อาจจะเป็นดินเค็ม ไม่สามารถปลูกพืชใดๆได้เลย อาจจะทำให้เราเสียเงินฟรีโดยทำประโยชน์ใดๆไม่ได้ก็ได้ค่ะ

6.อยู่ไม่ไกลจากแหล่งที่อยู่อาศัยประจำ เดินทางสะดวก
มีหลายคนที่เลือกที่จะซื้อที่ไว้ทำการเกษตรเฉยๆ ไม่ได้อยู่อาศัยในพื้นที่นั้นๆ หากเลือกพื้นที่ที่ห่างไกลจากที่พักอาศัยประจำของเรา ก็อาจจะเกิดความลำบากในการเดินทาง และสิ้นเปลืองเงินไปกับค่าเดินทางและค่าขนส่ง
เพราะฉะนั้น การเลือกที่ดินใกล้ๆและเดินทางสะดวกจึงมีความสำคัญค่ะ
บางท่านอาจจะเลือกปลูกบ้านหลังเล็กๆไว้ในที่แปลงนั้นเลย เพื่อให้สะดวกในการดูแลมากขึ้นก็ได้ค่ะ

7.ใกล้ตลาด แหล่งชุมชน และโรงพยาบาล
สองข้อแรก เข้าใจไม่ยากอยู่แล้ว เพราะว่า นั่นคือความสะดวกในการขายผลผลิตทางการเกษตรของเรา แต่อยากให้ดูเพิ่มในเรื่องของการเลือกพื้นที่ที่อยู่ใกล้โรงพยาบาลด้วย เพราะเมื่อยามเกษียณ โอกาสที่เราจะเจ็บป่วย ก็ย่อมมีมากขึ้น หากได้อยู่ใกล้โรงพยาบาล ก็จะช่วยอำนวยความสะดวกในการเข้าถึงการรักษาได้รวดเร็วขึ้นค่ะ

8.เพื่อนบ้านที่ดี สังคมที่ดี
เพื่อนบ้านดี มีชัยไปกว่าครึ่งค่ะ เพราะว่าจะช่วยลดปัญหาทะเลาะเบาะแว้ง ไม่พอใจกัน ในอนาคต
การสานสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนบ้านทำความรู้จักกัน ช่วยเหลือกันจะช่วยให้สังคมอบอุ่นมากขึ้นค่ะ
นอกจากนี้ ควรทำความรู้จักกับเจ้าหน้าที่ท้องถื่น เช่น ผู้ใหญ่บ้าน อสม. หมอในพื้นที่ ด้วยก็จะดีมากค่ะ
ทั้งหมดนี้ คือวิธีการพิจารณาในการเลือกที่ดินแบบคร่าวๆค่ะ แต่อย่าลืมว่าสิ่งสำคัญมากกว่านั้น ก็คือ “เงิน” ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้เราได้ที่ดินที่เหมาะสมและถูกใจได้มากพอค่ะ เพราะฉะนั้น หากเรามีฝันแล้ว เพื่อให้เดินไปถึงฝันนั้นได้ง่ายขึ้น การวางแผนทางการเงินที่ดีก็เป็นตัวช่วยสำคัญที่จะทำให้ฝันของเราเป็นจริงได้ค่ะ
และไม่ใช่แค่เงินสำหรับซื้อที่ดินเท่านั้น การทำเกษตรไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยค่ะ เรายังต้องลงทุนในเรื่องของการจัดการแหล่งน้ำ
เลือกเมล็ตหรือต้นพันธุ์ที่ดี ปุ๋ย และยา ป้องกันศัตรูของพืช รวมไปถึงอุปกรณ์ในการทำเกษตรอีกมากมาย ซึ่งล้วนแต่ต้องลงทุนเพิ่มขึ้นทั้งนั้นวางแผนการเงินให้ดี เพื่อสานความฝันให้สำเร็จ
เราเชื่อว่า ถ้าคุณมีความมั่นคงพอ คุณจะฝันอะไรก็ได้ค่ะ ^^
ด้วยความปรารถนาดีจาก
#MongforHappyLife
สอบถามข้อมูลแบบประกัน/เช็คค่าเบี้ยประกัน
